8 คำภาษาสเปนที่ความหมายเปลี่ยนแค่ลืมใส่ tilde
ถึงแม้ว่าเราจะเคยเขียนไว้ในบทวิธีลงเสียงหนักภาษาสเปนว่าบางทีแม้แต่เนทีฟทั้งหลายก็ไม่ได้ใส่ใจที่จะใช้เครื่องหมาย tilde ให้ถูกต้องกันซักเท่าไร
แต่ก็ยังมีคำศัพท์บางคำที่ถ้าลืมใส่เจ้าเครื่องหมายกำกับเสียงนี้แล้วความหมายของคำจะเปลี่ยนไปเลย วันนี้เรายกตัวอย่าง 9 คำที่ไม่ใส่ tilde แล้วความหมายเปลี่ยนมาฝากกันค่ะ
Papá
คำว่า papá แบบมี tilde นั้นจะแปลว่า "พ่อ" ส่วนคำว่า papa จะแปลว่า "มันฝรั่ง" จะเห็นได้ว่าความหมายเป็นคนละเรื่องไปเลยค่ะ
*ในที่นี้ในลาตินอเมริกาจะเรียกมันฝรั่งว่า papa ส่วนในสเปนจะเรียกว่า papata ดูคำศัพท์ที่ใช้ไม่เหมือนกัน
เรายกคำนี้มาไว้คำแรกเพราะว่าเป็นคำที่เนทีฟมักจะใส่เครื่องหมาย tilde อยู่เสมอ จะไม่เหมือนคำอื่นๆ ที่บางทีการคุยอย่างไม่เป็นทางการพวกเขาจะไม่ค่อยใส่เครื่องหมายกำกับเสียงกันค่ะ (โดยเฉพาะเนทีฟทีมทำบล็อกเรานี่แหละค่ะ 5555)
Jugó
ในส่วน jugó แบบที่มี tilde จะเป็นคำที่ถูกผันมาจาก verbo "Jugar" หรือที่แปลว่าเล่นค่ะ แต่ jugo นั้นจะหมายถึง "น้ำผลไม้" เป็นอีกหนึ่งคำที่ไม่ใส่เครื่องหมายกำกับเสียงแล้วความหมายเปลี่ยนไป
แต่ในบางครั้งเราอาจจะเห็นคนเขียนคำว่าน้ำผลไม้ว่า Jugó อยู่เยอะหมือนกันค่ะ ซึ่งตรงนี้ไม่ขอคอนเฟิร์มว่าถูกหรือผิด เพราะภาษาสเปนใช้กันในหลายประเทศ อาจจะมีบางสำเนียงหรือบางประเทศลงเสียงหนักตำแหน่งนี้ก็ได้ค่ะ
Sí
Sí ในรูปที่เขียน tilde กำกับไว้ด้วย จะมีอยู่ 2 ความหมายคือ 1. ใช่ (แปลเหมือน yes) 2. เป็น pronombre ประเภทหนึ่ง ใช้ในประโยคเช่น a sí mismo ซึ่งเราไม่ได้สอนไว้ในบท pronombre 101 แต่ไว้มีโอกาสจะมาเขียนค่ะ
ส่วน si แบบไม่เขียน tilde ก็จะมี 2 ความหมายเช่นกันคือ 1. ถ้า (แปลเหมือน if) ซึ่งความหมายนี้เราจะได้ใช้บ่อยๆ เลยค่ะ 2.โน้ตดนตรี ซี นั่นเองค่ะ
Té
คำนี้เป็นอีกคำที่เจ้าของภาษาไม่ค่อยลืมใส่ tilde เพราะว่า té แบบมีเครื่องหมายจะหมายถึง "ชา" ที่เป็นเครื่องดื่ม ส่วน te จะเป็น pronombre reflexivo ที่แปลว่า "คุณ" นั่นเองค่ะ
Sé
สำหรับคำว่า sé แบบมี tilde จะเป็นคำที่ผันมาจาก verbo "saber" ที่แปลว่ารู้ แต่ในส่วนของ se ก็จะเป็น pronombre reflexivo ที่ใช้บ่อยสุดๆ เพราะมันสะท้อนทั้ง usted / ustedes / él / ella / ellos / ellas เลยค่ะ
Él
คำนี้เป็นคำที่เจ้าของภาษาหลายคนละเลยการใส่ tilde บ่อยๆ เพราะ él นั้นเป็น pronombre personal ที่แปลว่า "เขา" ซึ่งภาษาสเปนมักจะไม่พูด pronombre personal กันด้วย อาจจะทำให้การใส่เครื่องหมายกำกับเสียงถูกหลงลืมไปค่ะ
ส่วน el จะเป็น artículo ใช้นำหน้าคำนามแบบเฉพาะเจาะจงที่เป็นเพศชายนั่นเองค่ะ
Tú
เหมือนกันกับ él นั่นก็คือ tú นั้นเป็น pronombre personal ที่แปลว่า "คุณ" และเจ้าของภาษามักจะลืมใส่ tilde เช่นเดียวกันค่ะ
แต่ในส่วนของ tu หมายถึง "ของคุณ" เป็นคำที่ใช้แสดงความเป็นเจ้าของ ซึ่ง 2 คำนี้ยังถือว่ายังมีความหมายใกล้เคียงกัน (แต่ไม่เหมือนกัน) ถึงแม้จะลืมใส่ tilde ก็ตามค่ะ
Dé
คำว่า dé นั้นผันมาจาก verbo dar ที่แปลว่า "ให้" ค่ะ แต่ในส่วนของ de แบบไม่ใส่ tilde เป็นคำเชื่อมประโยคที่ใช้บ่อยมากๆ ซึ่งแปลว่า "ของ, จาก, โดย etc. "
สรุป
- ถึงแม้ว่าการลืมเขียน tilde ในบางครั้งก็ยังสามารถสื่อสารประโยคนั้นออกมาได้เข้าใจอยู่ แต่ก็มีบางคพที่ลืม tilde แล้วความหมายเปลี่ยนไปเลยค่ะ
- บางคำก็เป็นคำที่ต่างความหมายไปเลยเช่น papa กับ papá
- แม้แต่เจ้าของภาษาเองก็ลืมการใส่ tilde บ่อยๆ โดยเฉพาะคำที่เป็น pronombre personal
- ถ้าจำไม่ได้จริงๆ ว่าคำไหนต้องใส่ tilde ลองจำเน้นๆ ที่ 8 คำนี้ดูก่อนค่ะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น