วิธีใช้ También กับ Tampoco ง่ายๆ ไม่สับสนแน่นอน

También y tampoco ใช้ต่างกันยังไง

อีกหนึ่ง แกรมม่าภาษาสเปน​ ที่หลายๆ คนสับสนกันมากนั่นก็คือการใช้ También​ และ Tampoco​ เพราะถึงมันจะใช้ในประโยคเห็นด้วย ที่แปลว่า "เช่นกัน, เหมือนกัน" แต่สถานการณ์​ในการใช้ก็แตกแต่งกันอย่างสิ้นเชิง เราบทความนี้เรามาดูกันค่ะว่าสองคำนี้ใช้ต่างกันยังไง



también​ ใช้ในประโยคแบบไหน

การใช้ también​ จะใช้ในประโยคเห็นด้วยที่เป็นประโยคบอกเล่าค่ะ ถ้าให้เทียบกับภาษาไทยง่ายๆ ก็คือมันจะไม่มีคำว่า "ไม่" ในประโยคนั้นๆ หรือในภาษาสเปนก็คือประโยคที่ไม่มีคำว่า "no" นั่นเองค่ะ

ตัวอย่าง

A: Me encanta esta película (ฉันรักหนังเรื่องนี้)​

B: A mí también (ฉันก็เหมือนกัน)​


A: María habla español (มาเรียพูดภาษาสเปน)​

B: Yo también (ฉันก็เหมือนกัน)​



tampoco ใช้ในประโยค​แบบไหน

ในเมื่อ también ใช้ในประโยคบอกเล่าไปแล้ว Tampoco​ ก็ต้องใช้กับประโยคปฏิเสธ​ค่ะ ข้อสังเกตก็คือประโยคนั้นจะมีคำว่า "ไม่" หรือคำว่า "No" อยู่ในประโยคด้วย

ตัวอย่าง

A: No me gusta esta película (ฉันไม่ชอบหนังเรื่องนี้)​

B: A mi tampoco (ฉันก็เหมือนกัน)​


A: María no habla español (มาเรียไม่ได้พูดภาษาสเปน)​

B: Yo tampoco (ฉันก็เหมือนกัน)​


สำหรับการใช้ También​ กับ Tampoco​ สลับกัน​ในช่วงแรก คู่สนทนา​อาจจะร้อง เอ๊ะ! บ้าง แต่ก็ยังเข้าใจได้ค่ะ ถ้าเขารู้ว่าเราเพิ่งฝึกจะเข้าใจว่าเราสับสนอยู่ เพราะมันไม่ถึงกับทำให้บางประโยคความหมายเปลี่ยนเหมือนกับการใช้ ser กับ estar หรือ por กับ para



a mí también และ yo también

สำหรับเราสิ่งที่ชวนสับสนยิ่งกว่าการใช้ También​ กับ Tampoco​ ก็คือการใช้ a mí también และ yo también ค่ะ

a mí también

เราจะใช้ก็ต่อเมื่อเราเป็นกรรมทางอ้อมของประโยค แต่ถ้าให้อธิบายเรื่องกรรมตรง/กรรมอ้อม น่าจะยาว ดังนั้นจำว่าตอบ a mí también เมื่อเจอ verbo gustar, encantar และ interesar ไว้ก่อนค่ะ

เพราะจริงๆ แล้วประโยคพวกนี้จริงๆ จะขึ้นต้นด้วย a mí​ แต่เวลาพูดจริงๆ เค้าไม่ค่อยพูดกัน เช่น

a mi me gusta el chocolate จะพูดแค่ me gusta el chocolate ก็ได้ค่ะ

yo también

และเราจะตอบ yo también ก็เมื่อเราเป็นกรรมตรงหรือประธานของประโยคนั้น หรือจำง่ายๆ แค่ไม่เจอ verbo 3 คำข้างบนในประโยคนั่นเองค่ะ

เช่นเดียวกันกับ a mí tampoco และ yo tampoco ก็ใช้หลักการเดียวกันกับข้างบนได้เลยค่ะ

ตัวอย่าง

A: No me gusta el frío (ฉันไม่ชอบความหนาวเย็น)​

B: A mí tampoco (ฉันก็เหมือนกัน)​


A: Trabajo en el centro (ฉันทำงานในห้างนี้)​

B: Yo también (ฉันก็เหมือนกัน)​

และสามารถเปลี่ยน Yo เป็น Tú, Él, Ella, Ellos, Ellas, Usted, Ustedes ได้หมดเลยค่ะ ( pronombre 101 )



ถ้าไม่เห็นด้วยต้องตอบอย่างไร

พูดถึงประโยคเห็นด้วยไปหมดแล้ว ถ้าไม่เห็นด้วยต้องตอบแบบไหน? หลักในการตอบง่ายๆ คือภาษาสเปน ถ้าเป็นบวกตอบ "Sí" เป็นลบตอบ "No" เท่านั้นค่ะ แล้วมารวมกับหลักการใช้​ a mí หรือ yo ก็จะได้ตามตัวอย่าง

A: Me encanta esta película (ฉันรัก​หนังเรื่อง​นี้)

B: A mí no (ฉันไม่ได้รักหนังเรื่อง​นี้)​


A: María no habla español (มาเรียไม่ได้พูดภาษาสเปน)​

B: Yo (ฉันพูด​ภาษา​สเปน)​


A: No me gusta el frío (ฉันไม่ชอบความหนาวเย็น)

B: A mí . (ฉันชอบความหนาวเย็น)​


A: Trabajo en el centro (ฉันทำงานในห้างนี้)​

B: Yo no (ฉันไม่ได้​ทำงานในห้างนี้)​


จากตัวอย่างทั้งหมดจะเห็นว่า ถ้าประโยคข้างบนเป็นประโยคปฏิเสธ​ คือเป็นลบ (มี no)​ ถ้าเราไม่เห็นด้วย หมายถึง​เป็นตรงกันข้าม​ก็คือเป็นบวก เราจะตอบด้วย Sí

ถ้าประโยคข้างบนเป็นบวก​ (ไม่มี No) ถ้าเราเป็นตรงกันข้ามคือลบ เราจะตอบ No ค่ะ

ตัวอย่างการใช้


สรุป

  • También ใช้ตอบเห็นด้วยกับประโยค​บอกเล่าธรรมดาค่ะ
  • Tampoco​ ใช้ตอบเห็นด้วยกับประโยคปฏิเสธ
  • A mí también, A mí tampoco ใช้ตอบเห็นด้วยกับประโยคที่เราเป็นกรรมทางอ้อม
  • Yo también, Yo tampoco ใช้ตอบเห็นด้วยกับประโยคที่เราเป็นกรรมตรงหรือประธาน
  • ถ้าไม่เห็นด้วย ให้ปฏิเสธด้วย yo sí, a mí sí, yo no, a mí no นะคะ

ความคิดเห็น